ปัจจุบันอาหารสำเร็จรูปมีความสำคัญควบคู่ไปกับการเลี้ยงปลาสวยงาม เพราะเมื่อมีการซื้อปลาสวยงามเมื่อใดก็จำเป็นต้องซื้ออาหารสำหรับเลี้ยงปลาสวยงามด้วย และเนื่องจากอาหารปลาสวยงามมีราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้มีการแข่งขันพัฒนาอาหารสำเร็จรูปชนิดต่างๆออกมาหลายชนิด โดยส่วนใหญ่จะเน้นคุณภาพเกี่ยวกับการเร่งสีของปลา คือทำให้ปลามีสีสันสดใส การสร้างวุ้น และยังมีการเน้นเจาะจงใช้เลี้ยงเฉพาะกลุ่มปลาหรือชนิดปลา เช่น เลี้ยงกลุ่มปลา Tetra และ Danio ได้แก่พวกปลานีออน และปลาซิว กลุ่มปลา Cichlid ได้แก่ พวกปลาหมอ ยิ่งมีการระบุถึงความเจาะจงและเน้นคุณภาพพิเศษต่างๆมากเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้อาหารชนิดนั้นมีราคาสูงขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงราคาของอาหารปลาสวยงามที่จำหน่ายกันในปัจจุบัน จะพบว่ามีราคาแพงที่สุดในบรรดาอาหารสัตว์ที่จำหน่ายกันอยู่ เช่น อาหารปลา Tetra ราคาซองละ 180.00 บาท มีน้ำหนักเพียง 100 กรัม คิดเป็นราคากิโลกรัมละ 1,800.00 บาท อาหารปลาทองชนิดเร่งสีและวุ้น ราคาซองละ 60.00 บาท มีน้ำหนัก 100 กรัม คิดเป็นราคากิโลกรัมละ 600.00 บาท อาหารปลาสวยงามที่จัดว่ามีราคาถูก จะราคาซองละ 10.00 - 20.00 บาท มีน้ำหนัก 100 กรัมเช่นกัน ซึงเมื่อคิดราคาต่อกิโลกรัมจะมีราคาถึง 100.00 - 200.00 บาท ก็ยังคงมีราคาแพงกว่าอาหารสัตว์อื่นๆเช่นกัน
ภาพที่ 1 ลักษณะอาหารปลาสวยงามแบบต่างๆ
ชนิดของอาหารสำเร็จรูปของปลาสวยงามที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดมีอยู่ 3 ประเภท
1.1 อาหารเม็ดจมน้ำ อาหารชนิดนี้เหมาะสำหรับปลาสวยงามที่หากินอาหารตามพื้นก้นตู้เช่นปลาหมู ปลาปล้องอ้อย ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้เพราะปลากินไม่ทัน อาหารจะตกค้างลงในวัสดุกรองมาก มักมีปัญหาเรื่องน้ำเน่าเสีย
1.2 อาหารเม็ดลอยน้ำ อาหารชนิดนี้เหมาะสำหรับปลาทุกประเภท มักมีคุณสมบัติลอยตัวอยู่ผิวน้ำได้ประมาณ 3 - 5 ชั่วโมง แล้วแต่ชนิดอาหาร ทำให้ปลากินอาหารได้ดี และผู้เลี้ยงสังเกตุได้ว่าให้อาหารพอเพียงหรือไม่ ปัจจุบันจึงมักผลิตเป็นอาหารเม็ดลอยน้ำ
1.3 อาหารผง อาหารชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้อนุบาลลูกปลา มีลักษณะเป็นผงละเอียด อาจให้กระจายตัวที่ผิวน้ำหรือผสมน้ำหมาดๆปั้นเป็นก้อนก็ได้ โดยถ้าเป็นลูกปลากินพืช เช่น ลูกปลาตะเพียนทอง ลูกปลาทอง และลูกปลาคาร์พ ควรให้กระจายตัวที่ผิวน้ำ แต่ถ้าเป็นลูกปลากินเนื้อ เช่น ลูกปลาแขยง และลูกปลาดุก ควรปั้นก้อนให้ อาหารชนิดนี้จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงปลาสวยงามที่ผลิตลูกปลาออกจำหน่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น